สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม หลายฝ่ายมองว่าสงครามการค้าครั้งนี้คล้ายคลึงกับ "สงครามโลกครั้งที่สามในมิติทางเศรษฐกิจ" แม้จะไม่มีเสียงปืนหรือความสูญเสียทางกายภาพ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกลับเทียบได้กับสงครามที่แท้จริง ตลาดที่เคยเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นกลับกลายเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยอุปสรรค
สวนทางกับยุโรป ที่สามารถส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ
หัวหน้าทิพย์ ออฟฟิศทิพย์ แต่จ่ายเงินจริง เทรนด์ใหม่หนุ่มสาวจีนแสร้งทำงานเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม
ศ.ฮอฟแมน กล่าวว่า การพูดคุยส่วนใหญ่จะ "แตะเรื่องพื้นฐาน" และเสริมว่าการเจรจาครั้งนี้อาจดูเหมือนเป็นการ "แลกเปลี่ยนสถานะ" และหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี "จะมีการกำหนดวาระการประชุมสำหรับการเจรจาในอนาคต"
ในความเป็นจริง ภาษีหลายอย่างยังคงอยู่และส่งต่อมาถึงสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และกำแพงภาษีล่าสุดของ ทรัมป์ ยังไปเพิ่มอัตราภาษีเดิมอีกด้วย
แต่เราคิดว่าการกระทำของ โดนัลด์ ทรัมป์ มีเหตุมีผลมั๊ยล่ะครับ?
ในขณะเดียวกัน ความคาดหวังที่ว่าการเพิ่มภาษีจะเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวในยุคของทรัมป์ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อโจ ไบเดนตัดสินใจรักษากำแพงภาษีไว้ ผู้บริโภคและผู้ผลิตจึงปรับเปลี่ยนการตัดสินใจในระยะยาว สถานการณ์นี้ก่อให้เกิดแรงเสียดทานที่กระจายตัวไปยังทุกมุมโลก
เหมือนอย่างเรื่องนี้ ที่แม้เกิดขึ้นไกลถึงสหรัฐฯ และยุโรป
ที่การกระทำของสิ่งหนึ่ง แม้ดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ หรือไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นเป็นทอด ๆ ต่อกันไป
ส่องประวัติสงครามการค้า สหรัฐฯ - ต่างชาติ
ต่อมาในวันนั้นจีนตกลงที่จะลดกลับภาษีรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังตกลงที่จะคืนสิทธิ์การสั่งซื้อการนำเข้าถั่วเหลืองบางส่วนและอนุญาตให้ บริษัท ในสหรัฐอเมริกาเข้าถึงอุตสาหกรรมจีนได้มากขึ้น
สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ยังเป็นที่จับตามองไปทั่วโลก เพราะไม่ว่าสหรัฐ ตั้งกำแพงภาษีอะไรมา จีนก็เหมือนจะตอบโต้ให้เท่ากัน ดังนั้นสงครามที่ยังไม่จบ เราก็ต้องคอยจับตาเพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบให้ดี
คำตอบก็คือ กลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มเท่าเทียมกว่ากลุ่มอื่น เพราะพวกเขาจัดระเบียบกันได้ดีกว่า ปกติเนื่องจากมีจำนวนผู้เล่นไม่กี่รายที่มีกระสุนการเงินมากที่สุด นั่นหมายความว่า สงครามการค้า ผู้ผลิตในประเทศกระเป๋าหนักสามารถล็อบบี้อย่างมีประสิทธิผลให้รัฐตั้งกำแพงภาษีกีดกันการแข่งขันจากสินค้านำเข้า ขณะที่ผู้บริโภคและผู้ผลิตตัวเล็กกว่าที่ได้ประโยชน์จากสินค้านำเข้าราคาย่อมเยาไม่สามารถทำแบบเดียวกันได้
การค้าเสรี (ด้วยข้อยกเว้นที่ผมพูดถึงด้านบน) คือนโยบายที่ดีที่สุดสำหรับเศรษฐกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถส่งผลต่อตลาดโลกได้ ถ้าหากเดนมาร์กจะตั้งภาษีศุลกากรที่เก็บจากสินค้าอเมริกัน นโยบายที่ดีที่สุดของเดนมาร์กก็น่าจะเป็นการค้าเสรี ไม่ว่าสหรัฐอเมริกาจะทำตัวแย่แค่ไหนก็ตาม – ที่จริงก็รวมถึงกรณีที่สหรัฐบุกกรีนแลนด์ด้วยนะครับ